Accessibility help

เมนูหลัก

10 สัญญาณอันตรายทางการเงิน

10 สัญญาณอันตรายทางการเงิน

 
คุณคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า "เงินคือพระเจ้า" กันจนเคยชิน แต่ก็มีหลายคนที่อาจมีความคิดสวนกระแสว่า "บางทีเงินก็ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตนะ" แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกวันนี้หลายคนปล่อยให้เงินมาบงการตัวเองเหมือนกัน

          สิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเราปล่อยให้เงินเข้ามาบงการชีวิตแล้วก็คือ เราไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์ทางการเงินในแต่ละเดือนของตัวเองได้ จนเกิดเป็นวิกฤตในชีวิตขึ้นมา แต่อย่ารอให้เกิดวิกฤตเลย วันนี้เราลองมาสำรวจตัวเองและมองหา  10 สัญญาณอันตรายทางการเงินต่อไปนี้ที่จะสร้างปัญหาให้คุณกันเถอะ ดูซิว่าคุณกำลังตกอยู่ในภาวะอย่างนี้บ้างหรือไม่

1. คุณมีค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนสูงกว่ารายได้

2. เวลาไปจ่ายค่าบัตรเครดิต คุณชำระเพียงแค่ยอดขั้นต่ำเท่านั้น

3. คุณคิดจะทำบัตรเครดิตเพิ่มอีกใบ เพื่อนำเงินมาชำระหนี้บัตรเครดิตใบเก่า (รวมแล้วคุณมีบัตรเครดิตเกิน 5 ใบ)

4. ในแต่ละเดือนคุณต้องจ่ายค่าบัตรเครดิตเป็นจำนวนมากจนเหลือเงินไม่พอใช้จ่ายอย่างอื่น

5. คุณค้างชำระค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ฯลฯ เป็นประจำ

6. คุณใช้เงินไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจอยากจะรู้ว่าเหลือเงินในบัญชีเท่าไรแล้วตอนนี้

7. ตอนนี้คุณเริ่มถูกทวงถามเรื่องค่าใช้จ่ายจากเพื่อนๆ หรือหน่วยงานต่างๆ แล้ว

8. คุณไม่มีเงินเก็บเลยในบัญชีธนาคาร

9. คุณใช้บัตรเครดิตซื้อของกินของใช้ประจำวัน เพราะไม่มีเงินสดติดกระเป๋า

10. ตัวคุณ หรือสามี-ภรรยา คุยกันเรื่องเงินน้อยลง แถมยังปกปิดค่าใช้จ่ายที่แท้จริงไม่ให้อีกฝ่ายรู้

          ถ้าคุณมีสัญญาณเหล่านี้ตั้งแต่ 1 ข้อขึ้นไป ก็พึงระลึกไว้เลยว่าสถานการณ์การเงินของคุณเริ่มจะมีปัญหาแล้วล่ะ แม้คุณคิดว่า "ยังไงก็พอจะหมุนเงินต่อไปได้น่ะ..." แต่อีกไม่นานปมปัญหาก็จะผูกมัดแน่นขึ้นจนคุณดิ้นไม่หลุดเชียวล่ะ

 

วิธีแก้ คือ ให้คุณทบทวนดูว่า สาเหตุอะไรที่ทำให้เงินขาดมือ และเป็นแค่ชั่วคราวเพราะมีเหตุฉุกเฉินอะไรบางอย่างเข้ามาทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หรือเป็นเพราะว่าเราไม่ใส่ใจดูแลการเงินให้ดีกันแน่


        ถ้าเป็นเพราะเราไม่ใส่ใจดูแลการเงินให้ดีละก็ ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายตั้งแต่บัดนี้ ถ้าปัญหานั้นเกิดจากคนอื่นในบ้าน ก็ต้องมานั่งพูดคุยกัน ร่วมมือกันเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยอาจทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของทุกคนในบ้าน แล้วนำมานั่งดูให้รู้ปัญหาร่วมกัน หากทุกคนยอมรับได้ ก็ถือว่าการแก้ปัญหาสำเร็จไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว


          จากนั้นขอให้ทุกคนทำบัญชีค่าใช้จ่ายประจำวันของตัวเอง เพื่อจะได้ควบคุมการใช้จ่ายได้ ที่สำคัญคนที่มีหน้าที่ดูแลค่าใช้จ่ายภายในบ้านต้องมีวินัยในการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ และห้ามนำเงินส่วนต่างๆ เหล่านี้มาใช้จ่ายกับเรื่องที่ไม่ได้วางแผนไว้โดยเด็ดขาด

........................................................................................
TIP : ถ้าปัญหาการเงินของคุณหนักหนาสาหัสจนมองไม่เห็นทางออกแล้วละก็ ที่ปรึกษาทางด้านการเงินก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ซึ่งในต่างประเทศจะมีที่ปรึกษาทางด้านการจัดการการเงินมืออาชีพคอยให้บริการ ส่วนในเมืองไทยคุณคงต้องมองหาคนรู้จักมักคุ้นที่มีความรู้ด้านการเงินหรือการบัญชีมาให้คำปรึกษาก็จะช่วยได้


ขอบคุณข้อมูล : www.ch7.com