สารบัญ
Toggleยืมเงิน 100 บาทด่วน AIS ใน 2025: วิธีใช้งานใจดีให้ยืม สำหรับคนที่ต้องการค่าโทรเร่งด่วน
ในปี 2568 บริการยืมเงิน AIS ง่ายๆ หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ “ใจดีให้ยืม” ยังคงเป็นตัวช่วยอันดับหนึ่งสำหรับผู้ใช้มือถือที่ประสบปัญหายอดเงิน ยอดเน็ตหมดกะทันหัน ไม่ว่าจะต้องการโทรออก ส่งข้อความ หรือใช้อินเทอร์เน็ตต่อเนื่อง บริการนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีมาก เพราะกดรหัสสั้นๆ ก็สามารถยืมค่าโทรมาใช้ได้ทันที โดยมีวงเงินให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 20 บาท จนถึง 100 บาทซึ่งเป็นวงเงินสูงสุด (กรณีอยากได้มากกว่านี้ อาจจะต้องไปดำเนินการขอยืมเงินกับแหล่งบริการอื่นๆ ที่ไม่ใช้เครือข่ายมือถือ)
ทำไมบริการยืมเงิน AIS ถึงสำคัญในปี 2025
ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือเป็นมากกว่าเครื่องมือสื่อสาร ทั้งการใช้ทำธุรกรรมการเงิน ใช้ดูแผนที่ หรือแม้กระทั่งยืนยันตัวตนผ่าน OTP ดังนั้นหากเครดิตหมดในช่วงเวลาสำคัญ การมียอดสำรองที่กดใช้ได้ทันทีจึงช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก และนี่คือเหตุผลที่บริการยืมค่าโทร AIS ยังคงได้รับความนิยมสูงในปีล่าสุดนี้
เงื่อนไขการใช้บริการใจดีให้ยืม AIS
ก่อนจะกรอกรหัสเพื่อกดยืมเงิน AIS ควรตรวจสอบเงื่อนไขดังนี้
- ต้องเป็นผู้ใช้ซิม AIS แบบเติมเงิน
- เปิดใช้งานมาแล้วเกิน 4 เดือน หรือมียอดใช้งานเฉลี่ยสม่ำเสมอและยอดเติมสะสมอยู่ที่ 150 บาทขึ้นไป
- ระบบจะพิจารณาวงเงินให้ยืมอัตโนมัติ เช่น 20, 30, 80 หรือสูงสุด 100 บาท
- มีค่าบริการเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ยืม โดยจะถูกหักออกเมื่อมีการเติมเงินครั้งถัดไป
- อาจมีการคิดค่าบริการ VAT เพิ่มเติม ตามอัตราที่บริษัทกำหนด
- ไม่สามารถดำเนินการยืมเงิน 5 บาทหรือยืมเงิน ais 10 บาทได้เพราะเป็นยอดที่ทางบริษัทไม่ได้อนุมัติ
วิธียืมเงิน ais แบบง่าย ๆ
การยืมเงินกับทาง AIS ทำได้ง่ายมากต่างจากบริการสินเชื่อเงินด่วนออนไลน์ที่ต้องดำเนินการยุ่งยาก เพียงทำตามขั้นตอนนี้
- กดรหัส USSD ที่กำหนด เช่น *611# แล้วโทรออก
- เลือกจำนวนเงินที่ต้องการยืมตามวงเงินที่ระบบเสนอ
- รอ SMS ยืนยันการทำรายการ
- เมื่อเติมเงินครั้งถัดไป ระบบจะหักค่าบริการคืนอัตโนมัติ
ผู้ใช้หลายคนยืนยันใน Pantip ว่าขั้นตอนนี้สะดวกและใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที นอกจากนี้หากมีข้อสงสัยก็ยังสามารถติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ผ่าน Call Center ได้ อีกทั้งในกระทู้พันทิปเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยังมีเจ้าหน้าที่มาคอยตอบ คอยแนะนำช่วยเหลือผู้ที่ต้องการใช้บริการใจดีให้ยืมอีกด้วย (ข้อมูลอ้างอิงที่นี่! : https://pantip.com/topic/41433652)
วงเงินและค่าธรรมเนียม
AIS จะแบ่งวงเงินให้ยืมตามประวัติการใช้งาน ดังนี้
- ยอดเล็กๆ เช่น ยืมเงิน ais 20 บาท สำหรับการโทรสั้นๆ
- ยอดกลาง เช่น 30 บาท หรือ 80 บาท สำหรับคนที่ใช้งานต่อเนื่อง
- และสามารถยืมเงิน 100 บาทด่วน ais ใน 2025 สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์วงเงินสูงสุด
ค่าบริการจะถูกคิดเพิ่มตามอัตราที่บริษัทกำหนด และระบบจะตัดคืนทันทีเมื่อคุณเติมเงินเข้าซิม
จุดเด่นของบริการยืมเงิน AIS
- ใช้งานได้ทันที ไม่ต้องมีอินเทอร์เน็ต
- กดรหัสสั้น ๆ ก็สามารถยืมค่าโทรได้
- ช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนเมื่อยอดหมด
- มีวงเงินหลากหลาย เหมาะกับทุกสถานการณ์
ข้อควรระวังในการยืมเงินเอไอเอส
แม้บริการของ AIS จะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี แต่ควรคำนึงถึงเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- อาจมีการคิดค่าธรรมเนียม: แต่ละวงเงินอาจจะมีค่าธรรมเนียมหรือ VAT ที่แตกต่างกัน ควรตรวจสอบก่อนกดยืม
- ตัดยอดอัตโนมัติ: เมื่อมีการเติมเงินครั้งถัดไป AIS จะหักยอดที่ค้างชำระคืนทันที
- ยืมได้ตามประวัติการใช้งาน: ลูกค้าที่ใช้งานมานานและมีประวัติการชำระดี อาจได้วงเงินสูงกว่า
- ใช้สำหรับกรณีจำเป็นเท่านั้น: เนื่องจากอาจจะมีค่าธรรมเนียม การยืมบ่อย ๆ อาจทำให้เสียค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ยืมเงิน AIS ออนไลน์ได้หรือไม่?
A: บริการนี้สามารถกดรหัสได้โดยตรงจากมือถือ ไม่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ต แต่ผู้ใช้บางรายอาจเข้าผ่านแอป myAIS เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้
Q: ถ้าอยากรู้ว่ามีวงเงินให้ยืมเท่าไร ต้องกดอะไร?
A: กด *611# เพื่อเช็กสิทธิ์ ระบบจะแจ้งทันทีว่าสามารถยืมได้กี่บาท
Q: ยืมเงินโทรศัพท์กับ AIS แล้วไม่เติมเงิน จะเกิดอะไรขึ้น?
A: ระบบจะค้างยอดหนี้ไว้ จนกว่าจะมีการเติมเงินเข้าซิม จากนั้นจะหักคืนพร้อมค่าธรรมเนียม (ถ้ามี)
คำถาม/คำตอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการนี้ คลิ๊ก! : https://aiscallcenter.ais.co.th/ikm/acc/index.php?kmid=KM1020537
สรุป
สำหรับผู้ใช้ซิม AIS ในปี 68 การมีบริการยืมเงิน AIS หรือใจดีให้ยืม AIS ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในยามฉุกเฉิน เพราะสามารถกดรหัสง่าย ๆ เพื่อยืมค่าโทรได้ทันที โดยมีวงเงินตั้งแต่ 20 บาท ยืมเงิน ais 30 บาทไปจนถึง 100 บาท ขึ้นอยู่กับสิทธิ์ของผู้ใช้ แม้จะมีค่าบริการและภาระต้องคืนหลังเติมเงิน แต่ก็ถือว่า เป็นตัวเลือกที่สะดวกและปลอดภัย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสถานการณ์เร่งด่วนที่ไม่ควรพลาด
*บทความนี้เป็นข้อมูลเชิงความรู้เท่านั้น ไม่ได้สนับสนุนให้ยืมเงินโดยไม่จำเป็นและไม่ได้เป็นบทความโฆษณาเชิงพาณิชย์ใดๆ ทั้งสิ้น
อัปเดตล่าสุด เดือนกันยายน 2568