กู้ยืม การศึกษา

กู้ยืม การศึกษา

รายละเอียดที่ควรรู้เกี่ยวกับกู้ยืม การศึกษาและข้อควรระวังสำหรับการผ่อนชำระค่างวด
เงินเดือน
ไม่กำหนด
อัตราดอกเบี้ย
ไม่กำหนด
อายุ
ไม่กำหนด
วงเงิน
ไม่กำหนด

กู้ยืม การศึกษาคืออะไร?

การกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา คือการขอรับเงินทุนจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้เป็นค่าเล่าเรียนและค่าดำรงชีพระหว่างเรียน โดยไม่ต้องชำระคืนทันที แต่จะเริ่มผ่อนชำระเมื่อสำเร็จการศึกษา หลักการของการกู้ยืม การศึกษา ช่วยให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์เข้าถึงการศึกษาทุกระดับ ตั้งแต่มัธยมปลายจนถึง ปโท อย่างเท่าเทียม

ในปี 2025 กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้ปรับเกณฑ์ใหม่เพื่อรองรับความต้องการของนักเรียนและนักศึกษา หลายโครงการได้ยืดหยุ่นวงเงินและระยะเวลาผ่อนชำระมากขึ้น ทำให้การกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการลงทุนเพื่ออนาคตของตนเองหรือลูกหลานของท่าน

ปัจจุบันสามารถกู้ยืม การศึกษาที่ไหนได้บ้าง?

การกู้เงินเรียนในปัจจุบันเปิดโอกาสผ่านหลายช่องทางหลัก ได้แก่

  • องทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นแหล่งหลักสำหรับกู้เงินนักศึกษา ที่ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน (เข้าชมเว็บไซต์ทางการของ กยศ.)
  • ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารออมสิน ทำหน้าที่รับเบิกจ่ายเงินให้กับผู้กู้ กยศ.
  • ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเอกชน เปิดสินเชื่อสำหรับกู้เงินเรียน เฉพาะกลุ่มนักศึกษา แต่ผู้เขียนขอแจ้งให้ทราบเพิ่มเติมว่า สินเชื่อเหล่านี้จะมีเงื่อนไขการค้ำประกันและอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกัน
  • โครงการสินเชื่อให้กู้ยืม การศึกษาในสาขาอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ
    ด้วยทางเลือกเหล่านี้ นักศึกษาและผู้ปกครองสามารถเปรียบเทียบเงื่อนไขทั้งอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ และวงเงิน เพื่อหาช่องทางที่เหมาะสมที่สุดของบุตรหลานท่านได้

ใครบ้างที่สามารถกู้ยืม การศึกษาได้?

กลุ่มเป้าหมายหลักของการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา แบ่งตามระดับการศึกษาและคุณสมบัติ ดังนี้

  1. นักเรียนระดับมัธยมปลาย และ ปวช. ที่มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่โครงการหรือสินเชื่อกู้ยืม การศึกษานั้นๆกำหนด
  2. นักศึกษาระดับ ปวส. และปริญญาตรี ที่เข้าศึกษาในสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ
  3. นิสิตนักศึกษาระดับ ปโท ที่มีจดหมายตอบรับจากสถาบันการศึกษา
  4. ผู้เรียนในสาขาวิชาเฉพาะด้านที่สังคมและตลาดแรงงานขาดแคลน
  5. ผู้ที่ต้องการกู้ กยศ มหาลัย โดยไม่จำกัดสถาบันทั้งภาคเอกชนหรือภาครัฐ
  6. และเงื่อนไขเบื้องต้นมักประกอบด้วยสัญชาติไทย ไม่มีประวัติค้างชำระหนี้ และผู้กู้ ปโท ต้องมีหลักฐานการตอบรับเข้าเรียนชัดเจน

เอกสารที่จำเป็นต้องใช้สำหรับกู้ยืม การศึกษา

เพื่อให้การขอเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาดำเนินไปอย่างราบรื่น ควรจัดเตรียมเอกสารต่อไปนี้ให้ครบก่อนยื่นคำขอกู้

  1. สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของผู้กู้
  2. ใบรับรองสถานภาพนักเรียน/นักศึกษา หรือสำเนาทะเบียนนักศึกษา
  3. หลักฐานผลการเรียน (Transcript) สำหรับผู้กู้ยืม การศึกษาระดับ ปวส. ขึ้นไป
  4. สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ค้ำประกัน (ถ้ามี)
  5. หนังสือรับรองการเข้าเรียนจากสถาบันการศึกษา
  6. เอกสารแสดงรายได้ผู้ปกครอง เช่น สลิปเงินเดือนหรือใบเสียภาษี
  7. แบบคำขอกู้ กยศ. หรือแบบฟอร์มธนาคาร (ตรวจสอบกับธนาคารกรุงไทย หรือ ธนาคารออมสิน ว่าต้องใช้แบบไหน)
  8. เอกสารเพิ่มเติมตามเงื่อนไขโครงการ เช่น หลักฐานภูมิลำเนาหรือสำเนาทะเบียนประวัติผู้เรียนต่างชาติ

*ตรวจสอบให้ดีว่าได้รวบรวม เอกสารทุกฉบับครบถ้วน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกให้ส่งเอกสารใหม่ เพราะหากล่าช้าไปลูกหลานของผู้อ่านอาจจะต้องรอลงทะเบียนใหม่เทอมหน้าไปเลย ซึ่งจะทำให้เสียเวลาและเสียโอกาสได้!

วงเงินให้กู้ กยศ ได้เท่าไหร่ในปี 2568

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กำหนดวงเงินหลักในปีนี้ ดังนี้

> ค่าเล่าเรียนตามจริง ไม่เกินหลักสูตรละ 200,000 บาทต่อปี
> ค่าครองชีพ เดือนละ 3,000 บาท สูงสุด 6 เดือนต่อปีการศึกษา
> ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน สูงสุดปีละ 10,000 บาท

นักศึกษาที่ใช้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา สามารถขอวงเงินรวมได้ตามความจำเป็นของแต่ละหลักสูตร โดยไม่ต้องมีหลักประกัน แต่ถ้าเลือกสินเชื่อจากธนาคารอื่น อาจต้องใช้ผู้ค้ำและมีหลักทรัพย์ค้ำประกันตามเงื่อนไขของ ธนาคาร นั้นๆ

หากกู้ยืม การศึกษาไปแล้ว…ไม่ชำระ จะได้รับผลกระทบใดบ้าง?

เมื่อผู้กู้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด จะส่งผลกระทบต่อทั้งเครดิตและสิทธิต่างๆ ดังนี้

  • ประวัติผิดนัดชำระถูกบันทึกในเครดิตบูโร ทำให้ในอนาคตยากต่อการขอสินเชื่ออื่น
  • ถูกระงับสิทธิ์ในการกู้ยืมเพิ่มเติมจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาและไม่สามารถรับทุนอื่นได้
  • ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี เช่น กรณีข่าวปี 2023 นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งถูกแจ้งค้างชำระยอดกู้ยืม การศึกษากว่า 200,000 บาท จนต้องขายทรัพย์สินชดใช้หนี้
  • สถาบันการศึกษาอาจปฏิเสธการลงทะเบียนเรียนภาคถัดไปหรือปฏิเสธการสำเร็จการศึกษา หากตรวจพบการผิดนัดชำระ

*ตัวอย่างกรณีล่าสุด มีนักศึกษาปริญญาโทรายหนึ่งถูกยึดบัญชีเงินฝาก หลังไม่ยอมผ่อนชำระยอดหนี้โดยไม่แจ้งเหตุผลใดๆ ล่วงหน้าจนธนาคารออมสิน ดำเนินมาตรการตามกฎหมาย (ดูข่าวเกี่ยวกับการเบี้ยวหนี้กยศ ได้ที่ไทยรัฐ)

สรุปและข้อแนะนำจากผู้เขียน

การวางแผนกู้ยืม การศึกษา ควรทำให้รอบคอบตั้งแต่ต้น จะช่วยลดความเสี่ยงและผลกระทบในอนาคต ควรเปรียบเทียบเงื่อนไขของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษากับสินเชื่อธนาคารต่างๆ จากนั้นค่อยเลือกแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสมกับสภาพครอบครัวและเป้าหมายการเรียน นอกจากนี้อย่าคิดว่า หากไม่ได้ทำราชการแล้วทางผู้ปล่อยกู้ไม่ว่าจะภาครัฐหรือเอกชนจะตามตัวไม่ได้ เพราะมีบางคนคิดว่า ตนเลือกไม่เข้าหน่วยงานรัฐ เลือกทำงานเอกชนแล้วจะรอด แต่สุดท้ายทางระบบก็ดำเนินการตามข้อกำหนดพร้อมกับหักเงินเดือนทุกๆ เดือนเพื่อแบ่งยอดมาชำระงวดหนี้ที่บุคคลดังกล่าวได้ทำการยืมไปในสมัยเรียน เพราะฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าท่านจะกู้เงินเพื่อการศึกษาหรือเพื่อเรื่องใดๆ เมื่อถึงเวลาชำระค่างวดก็ควรอย่างยิ่งที่จะดำเนินการผ่อนยอดนั้นให้ครบ!

ผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม

ยืมเงินฉุกเฉิน 5000 ด่วนตอนนี้มีที่ไหนให้บริการบ้าง? ทำไมถึงไม่ควรไปกู้เงินนอกระบบ?
เงินเดือน
ไม่กำหนด
อัตราดอกเบี้ย
ไม่กำหนด
อายุ
ไม่กำหนด
วงเงิน
ไม่กำหนด
แนะนำบริการเงินกู้ ออนไลน์ อนุมัติทันทีฟรีค่าธรรมเนียมและส่องรีวิวล่าสุดในปี 68
เงินเดือน
ไม่กำหนด
อัตราดอกเบี้ย
ไม่กำหนด
อายุ
ไม่กำหนด
วงเงิน
ไม่กำหนด